ทำอย่างไร เมื่อหมายศาลมาถึงบ้าน ???
- รายละเอียด
- หมวด: อรรถรสคดี
- เผยแพร่เมื่อ: วันพฤหัสบดี, 12 ตุลาคม 2560 11:11
- เขียนโดย cplaw
- ฮิต: 11100

เมื่อได้รับหมายศาลมักจะตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกเพราะเมื่อมีหมายศาลมาถึงตัวมักจะคิดถึงการถูกฟ้องร้องไว้ก่อน ทั้งที่จริงๆแล้วหมายศาลมีหลายชนิดซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นหมายศาลที่ถูกฟ้องร้องเสมอไปอาจเป็นหมายศาลในเรื่องอื่นๆก็ได้
การอื่นจะต้องตั้งสติให้ดีเมื่อได้รับหมายศาล ดูให้รอบครอบว่าเป็นหมายอะไรส่งมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร และได้รับหมายในฐานะอะไรเนื่องจากหมายศาลมีหลายประเภท ทั่งคดีแพ่ง คดีอาญาดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจในเบื้องต้นไว้บ้าง ดังนี้
หมายศาลในคดีแพ่งที่สำคัญๆได้แก่
-
หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องหรือหมายเรียกคดีแพ่งสามัญ
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหมายในคดีแพ่งหากได้รับหมายนี้แสดงว่าผู้ที่มีชื่อในหมายได้ถูกฟ้องเป็น "จำเลย" ต่อศาลแล้ว หากได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้ว มีหน้าที่ต้องทำคำให้การยื่นต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมายหรือถือว่าได้รับหมาย การที่ถือว่าได้รับหมาย เช่นการปิดหมาย ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ถูกฟ้องไม่ยอมรับหมายเรียก จึงต้องทำการปิดหมายและสำเนาคำฟ้องไว้ ณภูมิลำเนาของผู้ถูกฟ้อง แต่วิธีการปิดหมายจะมีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วันนับแต่วันปิดหมายได้ล่วงพ้นไปแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ถูกฟ้องยังมีเวลาที่จะยื่นคำให้การแก้คดีได้รวม 30 วัน นับถัดจากวันที่ปิดหมาย เพื่อการต่อสู้คดี มิฉะนั้นจะหมดสิทธิ์ในการต่อสู้คดี ทำให้ต้องแพ้คดีและต้องรับผิดตามฟ้อง ดังนั้น เมื่อได้รับหมายต้องรีบติดต่อทนายความทันทีเพื่อปรึกษาและดำเนินการในการต่อสู้คดี
-
หมายเรียกคดีไม่มีข้อยุ่งยาก หมายถึงคดีมโนสาเร่
คดีมโนสาเร่ คือ คดีที่ฟ้องร้องกันโดยมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 300,000 บาท หรือคดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าเช่าขณะคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท จำเลยต้องมาศาลตามวันนัดพิจารณาในหมายเพื่อไกล่เกลี่ยและต้องให้การแก้คดีและสืบพยาน จำเลยจะยื่นคำให้การแก้คดีก่อนวันนัดก็ได้ แต่อย่างช้าต้องไม่เกินวันนัดถ้าจำเลยไม่ได้ให้การในวันนัด ศาลจะพิจารราคดีต่อไปโดยถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และถ้าจำเลยไม่ได้มาศาลในวันนัดดังกล่าวโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ศาลจะสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาด้วยและศาลจะพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว
คดีไม่ข้อยุ่งยาก คือ คดีสามัญที่โจทก์ฟ้องขอให้ชะระเงินจำนวนที่แน่นอนตามตั๋วเงิน (ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน เช็ค) หรือฟ้องตามสัญญาที่เป๋นหนังสือสัญญาที่แท้จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย จำเลยต้องมาศาลและให้การแก้คดีในวันนัดซึ้งเป็นวันนัดพิจารณาด้วย ถ้าจำเลยไม่ได้ให้การในวันกำหนด ศาลจะพิจารณาคดีต่อไปโดยถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และถ้าจำเลยไม่ได้มาศาลในวันนัดดังกล่าวโยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี ศาลจะสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลจะพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว
- หมายเรียกพยานเอกสารหรือวัตถุ
อันที่จริง "คำสั่งเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ(คดีแพ่ง)"เมื่อได้รับหมายดังกล่าวแล้ว ผู้มีชื่อในหมายมีหน้าที่ต้องจัดส่งเอกสารหรือพยานวัตถุไปยังศาลตามรายการที่ระบุไว้ในหมาย หากขัดขืนอาจมีความผิดฐานขัดขืนหมายศาลซึ่งมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทะั้งปรับ ทั้งนี้จะมีระบุไว้ในด้านหลังของหมาย แต่หากไม่มีเอกสารหรือวัตถุพยานตามหมายเรียกอยู่ในครอบครองก็ให้ทำหนังสือชี้แจงไปยังศาล เพื่อให้ศาลและผู้ขอหมายเรียกทราบต่อไป แต่หากมีบางส่วนหรือมีแต่ไม่อาจส่งไปให้ทันตามกำหนดเวลาได้ ก็ต้องทำหนังสือแจ้งเหตุไปให้ทราบเช่นกัน
- หมายเรียกพยานบุุคคล
เมื่อได้รับหมายจะต้องไปศาลตามวันและเวลาที่กำหนดไว้ในหมาย เพื่อเบิกความเป็นพยานต่อศาลหากขัดขืนไม่ไปศาลตามกำหนดศาลอาจออกหมายจับเอาตัวกักขังได้ และอาจถูกฟ้องได้ แต่หากมีเหตุขัดข้องไม่สามารถไปศาลตามวันนัดเวลาที่กำหนดได้ ก็สามารถทำหนังสือแจ้งเหตุขัดข้องต่อศาลได้และหากผู้ขอหมายยังประสงค์จะเบิกความเป็นพยานต่อศาลอีกก็ต้องส่งหมายมาให้อีกครั้งหนึ่ง
- หมายบังคับคดี
เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีและจำเลยไม่ยอมชำระหนี้ก็ต้องมีการออกหมายบัวคับคดีส่งให้จำเลย เมื่อจำเลยได้รับหมายบังคับคดีแล้วมีหน้าที่ต้องปฎิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษา มิฉะนั้น อาจถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินออกขายทอดตลาดนำเงินม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้
หมายในคดีอาญาที่สำคัญๆ มีดังนี้
- หมายนัดไต่สวนมูลฟ้อง
ในคดีอาญา ถ้าผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีเองตามกฎหมายศาลจะต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องเสียก่อนว่าคดีที่โจทก์ฟ้องนั้นมีมูลหรือไม่ถ้ามีมูลศาลก็จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณาต่อไป ถ้าศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลสาลก็จะมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ของโจทก์ แต่ถ้าเป็นกรณีที่ผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนหรือตำรวจก็ไม่ต้องทำการไต่สวนมูลฟ้อง พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนส่งให้อัยการยื่นฟ้องได้เลย
เมื่อได้รับหมายนัดจึงต้องดูรายละเอียดว่าศาลกำหนดวันนัดได่สวนมูลฟ้องวันใดและหากประสงค์จะต่อสู้คดีก็ต้องรีบไปปรึกษาทนายความทันที เพื่อทำหนังสือแต่งตั้งทนายความเพื่อให้ทนายความไปทำการซักค้านพยานโจทก์ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องแทน โดยในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องจำเลยไม่จำเป็นต้องไปศาล
ส่วนใหญ่แล้วในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องจำเลยมักจะไม่ไปศาลเพราะหากจำเลยไปศาลในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง ถ้าศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ศาลก็จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยจะถูกควบคุมตัวทันทีจึงต้องเตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวด้วย
- หมายเรียกพยานบุุคคล
เมื่อได้รับหมายดังกล่าวต้องปฎิบัติเช่นเดียวกับการที่ได้รับหมายเรียกพยานบุคคลในคดีแพ่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วมิฉะนั้นก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน
- หมายเรียกพยานเอกสารหรือวัตถุในคดีอาญา
หากได้รับหมายเรียกให้ส่งพยานเอกสารหรือวัตถุต่อศาลจะต้องจัดส่งเอกสารหรือวุตถุตามที่ระบุในหมายไปศาลตามวันเวลาที่ศาลกำหนด หากขัดขืนอาจมีความผิดฐานขัดขืนหมายศาลซึ่งมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ที่งนี้จะมีระบุไว้ในด้านหลังของหมายแต่หากไม่มีเอกสารหรือวัตถุพยานตามหมายเรียกอยู่ในครอบครองก็ให้ทำหนังสือชี้แจงไปยังศาลเพื่อให้ศาลทราบต่อไป แต่หากมีบางส่วนหรือไม่มีอาจส่งไปให้ทันตามกำหนดเวลาได้ ก็ต้องทำหนังสือแจ้งเหตุไปให้ทราบเช่นกัน หรือไปแถลงด้วยวาจาต่อศาลตามวันที่ระบุในหมายก็ได้
- หมายค้น หมายจับ หมายขัง และหมายปล่อย
กฎหมายห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาลแต่มีข้อยกเว้นถ้าพนักงานฝ่ายปกครอง(ตั้งแต่ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงมาจนถึงปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ)หรือตำรวจ(ตั้งแต่อธิบดีกรมตำรวจลงมาจนถึงหัวหน้้ากิ่งอำเภอสถานีตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นนายร้อยตำรวจตรีขึ้นไป)เป็นผู้ค้นในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยออกมาจากที่รโหฐานหรือมีพฤติการ์ณที่แสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นข้างใน
- เมื่อปรากฎความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่ระโหฐาน
- เมื่อมีคนร้ายที่ถูกไล่จับหนีเข้าไปหรือมีเหตุสงสัยว่าได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่
- เมื่อมีหลักฐานว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายซ่อนอยู่ซึ้งหากรอหมายค้นสิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายทำลายเสียก่อน
- เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้ที่จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้านและการจับนั้นมีหมายจับนอกจากนี้การค้นในที่รโหฐานต้องทำระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและตกยกเว้น เมื่อค้นตั้งแต่เวลากลางวันแต่ยังไม่เสร็จก็สามารถค้นต่อไปจนถึงกลางคืนได้ หรือในกรณีมีเหตุฉุกเฉินอย่างยิ่งก็ค้นในเวลากลางคืนได้ เมื่อได้รับหมายดังกล่าวเหล่านี้ต้องอ่านรายละเอียดในหมายว่าให้เข้าใจ แต่ถ้าเป็นหมายค้นก็ต้องยอมให้ค้นได้และต้องตรวจค้นจะต้องทำตามวัน-เวลาและสถานที่ที่ระบุในหมายศาลเท่านั้นและต้องกระทำอย่างระวังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกค้นมิฉะนั้นผู้ถูกค้นสามารถฟ้องผู้ตรวจค้นได้
ส่วน หมายขัง หมายจำคุก หมายปล่อย เป็นเรื่องเฉพาะที่มีขั้นตอนที่ลึกลงไปอีกซึ่งศาลจะมีการกำหนดไว้ในหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น
ทนายออนไลน์ โดย ซีพี ลอว์ CP LAW
ติดต่อ 094-303-9999
ไลน์แอด https://line.me/R/ti/p/%40cplawfirm